ห้องที่ ๒๑ : นายโตเปรียญ


          มารหนึ่งกุมภกาศอ้างสมญา
โอรสสำมนักขาสืบไส้
นามชนกชื่อชิวหาเขยทศ กรรฐเฮย
จงจิตรคิดใคร่ได้สาตรไท้เทวัญ
          ทันใดระเห็จห้องเวหา
สู่ชนกชนนีลารีบเต้า
เหาะข้ามฝั่งโคธานามแม่ น้ำเอย
ถึงแผ่นศิลาเข้านั่งชั้นเศกมนต์
          ดินฟ้าอากาศก้องโกลา หลเฮย
ด้วยเดชแห่งวิทยาเชี่ยวใช้
ภักตรสี่แปดโสตรหาเหตุทราบ แล้วเฮย
ทิ้งพระขรรค์ทิพยให้เฉภาะหน้าขุนมาร
          หลานราพลืมเนตรขึ้นเหนขรรค์
เคียดว่าพรหมอาธรรม์ทอดให้
ฤๅมาหมิ่นกุมภัณฑ์พงษสี่ ภักตรเฮย
ส่งกับมือไป่ได้ดั่งนี้แคลนเรา
          หงุดหงิดคิดคับแค้นใจตน
กูก็กูคงคนหนึ่งแท้
เทพาวธไป่ดลหัดถ์ไป่ หยิบเฮย
จักอยู่บริกรรมแก้เกี่ยงให้มามือ
          ปางองค์พระลักษณ์ผู้ภักดี
ต่อพระบาทบทศรีเชษฐไท้
อีกองค์พระลักษณ์มีเสมอเชษฐ ตนนา
คือชนกชนนีได้เท่าแท้ทั้งสอง
          จำงายพระจัดพร้อมคานขอ
แสรกคู่หาบกระทอรีบเต้า
ผลไม้เกบเกือบพอจวนกลับ
เหนพระขรรค์นั้นเข้าอยู่ข้างทางจร
          หยิบขรรค์ปลงหาบไว้ควงขรรค์ ลองเอย
วาบ ๆ ปลาบแสงฉันโชติแพร้ว
กุมภกาศยินพลันลืมเนตร เหนเฮย
ฉวยชักคทาแก้วรีบเข้าโจมตี
          พระลักบณเหนยักษร้ายแรงทนง
กรแกว่งพระแสงทรงเสดจยั้ง
คอยทีรวังองค์สมอาจ หาญเฮย
การรบฤๅรอรั้งท่าให้เสียที
          บาทขวาเหยียบเข่าซ้ายกุมภัณฑ์
กลอกกลับจับพัลวันวุ่นคว้า
บาทซ้ายเหยียบบ่ายันมือฉุด กระบองนา
พระหวดด้วยขรรค์กล้าขาดเกล้ามารมรณ์
          เสรจการผลาญราพแล้วเก็บผล ไม้เฮย
เตมหาบหาบมาดลกุฎิไหว้
ทูลเหตุยักบผจญแลลาภ ขรรค์เฮย
แก่พระพี่แล้วไซ้นอบเกล้าถวายขรรค์
          ทรงรับอาวุธเอื้อนโองการ
รอยว่าเทพยทิ้งประทานแน่น้อง
บุญพ่อประจวบพานจงสฤษดิ์ พ่อฮา
มอบพระขรรค์พลางพร้องพร่ำให้สวัสดี
          ปางทศภักตรเจ้ากรุงมาร
จักประภาษภูมสฐานป่าไม้
มอบกิจอภิบาลบูเรศ
แก่ยักษชิวหาให้อยู่รั้งลงกา
          สั่งมารมีชื่ออ้างมโหทร
เตรียมตรวจแสนยากรจุ่งพร้อม
เราจักพเนจรชมป่า
ขุนยักษประนตน้อมรีบร้อนจัดพล
          พวงเพชร์พยุหพร้อมเปนกระบวน เสร็จเฮย
ทูลกิจตามจำนวนเรียบร้อย
จอมยักษธตรัสชวนอรรคเรศร์ เสดจแฮ
ทรงรถสั่งให้คล้อยเคลื่อนพร้อมพลากร
          ถึงป่าพานาฎไท้ชมพฤกษ
โดยถิ่นชทึงทึกร่มชื้อ
จตุบททวิบาทคึกจวนค่ำ
จอมยักษพักพลอื้ออัดตั้งพลับพลา
          ชิวหาผู้รับรั้งลงกา
ตั้งแต่ทศภักตรคลาทัพคล้อย
เจ็ดคืนเจ็ดทิวาเวียนตรวจ เมืองแฮ
จักหลับแต่สักน้อยหนึ่งนั้นไป่มี
          เจ็ดวันประภาศด้าวแดนไพร
เลิกทัพกลับกรงไกรทั่วหน้า
พบมฤคบ่อนใกกรูแวด ล้อมเอย
พลางเล่นพลางชักช้าตราบสิ้นแสงสูริย์
          วันนั้นยักษชื่ออ้างชิวหา
แปลงรูปคือพรหมตาหลับพริ้ง
ลิ้นแลบปิดลงกามืดทั่ว
หลับสนิทดังว่าทิ้งร่างม้วยอาสัญ
          จอมราพไล่มฤคแล้วเร่งพล กลับเฮย
ถึงบูรีแลมนมืดหล้า
ตรัสสั่งอสุรสกลเกรียวกู เรียกเฮย
แต่สักตนฤๅอ้าปากร้องรับขาน
          ท้าวราพพิโรธเคี้ยวขบฟัน
ยี่สิบกรกุมสรรพ์สาตรถ้วน
คิดว่าศึกอาธรรม์ทำหลู่
ขว้างจักรตัดลิ้นด้วนยักษน้องเขยมลาย
          ชาวเมืองแตกตื่นก้องโกลา หลแฮ
ทศภักตรเร่งรถคลารีบเต้า
ถึงพลานสบชิวหานอนขาด ชีพเฮย
ท้าวก่นกรรแสงเศ้รารุ่มร้อนแรงศัลย์
          ฝืนพระไทยเสด็จขึ้นยังปรา สาทนา
แสนโศกเสียดอุราเร่งร้อน
นางสำมนักขาทราบเหตุ นั้นเฮย
รีบสู่พระศพข้อนอกซั้นกรรแสง
          สร่างโศกฤๅสร่างแค้นทศกรรฐ
รีบสู่ปราสาทพลันตัดภ้อ
ผัวข้าผิดเช่นฉันใดพระ พี่นา
เร่งว่าอย่าต้องง้อพูดซ้ำถึงสอง
          ทศภักตรตรัสปลอบน้องว่ากรรม ดลนา
ใช่พี่จักแสร้งทำทุ่มให้
งดโทษเถิดแม่สำมนัก ขาแฮ
นางสดับดับเดือดไท้ท่านแล้วลาจร
          โองการมารเอื้อนสั่งเปาวนา สูรเฮย
อีกเหล่ามาตยากรเชี่ยวใช้
ทำเมรุเพื่อชิวหาสำเรจ
เชิญศพประทับได้ที่แล้วประทานเพลิง
          จำเนียรนางยักษหม้ายเมาผัว
หยิบเลศลูกชายตัวออกอ้าง
ลาราพละเมืองมัวหาคู่
ลุเฃตรโคธากว้างเหาะข้ามฝั่งแสวง
          ปางสามกระษัตริยผู้ทรงพรต
เนากุฎิบุรินททท่านให้
ครั้นรุ่งพระรามบทจรสู่ ท่าเฮย
งามยาตรนาดกรไท้เล่ห์ท้าวทรงหงษ์

จบห้องที่ ๒๑


  เนื้อความกล่าวถึงกุมภกาศลูกของชิวหากับนางสำมนักขาประสงค์จะได้อาวุธจากเทวดา จึงเหาะไปบริกรรมคาถาที่ริมฝั่งแม่น้ำโคธา ด้วยเดชแห่งวิทยาทำให้ดินฟ้าอากาศแปรปรวน พระพรหมทราบเหตุจึงทิ้งพระขรรค์ทิพย์ลงมาตรงหน้า กุมภกาศลืมตาเห็นพระขรรค์อยู่ตรงหน้าก็โกรธคิดว่าพระพรหมดูหมิ่น ไม่ส่งให้กับมือ จึงบริกรรมต่อเพื่อให้พระพรหมประทานพระขรรค์ให้กับมือ ฝ่ายพระลักษณ์กลับจากเก็บผลไม้ผ่านมาเห็นพระขรรค์ก็หยิบขึ้นมากวัดแกว่งเป็นแสงประกายจ้า กุมภกาศได้ยินเสียง ลืมตาเห็นพระลักษณ์ก็คว้าคทาเข้าตี กุมภกาศเสียทีถูกพระลักษณ์ใช้พระขรรค์ตัดหัวสิ้นชีพ พระลักษณ์กลับอาศรมและทูลเรื่องราวให้พระรามทราบ
  กล่าวถึงทศกัณฐ์ครองกรุงลงกา เสด็จประพาสป่า ให้ชิวหาผู้เป็นน้องเขยอยู่รักษากรุงลงกา ชิวหาตระเวนรักษาเมืองตลอดเจ็ดวันเจ็ดคืนจนง่วงนอนทนไม่ไหว จึงแปลงร่างเป็นพระพรหมแลบลิ้นปิดเมืองไว้แล้วนอนหลับ ทศกัณฐ์กลับมาไม่เห็นเมือง ร้องเรียกก็ไม่มีใครตอบ สำคัญว่าศัตรูมาปิดล้อมเมือง จึงขว้างจักรไป จักรตัดลิ้นชิวหาขาดถึงแก่ความตาย ฝ่ายนางสำมนักขาซึ่งเป็นม่ายอยากได้คู่ครองใหม่ จึงลาทศกัณฐ์ออกป่าไปหาคู่จนถึงริมฝั่งแม่น้ำโคธาในเวลารุ่งเช้าซึ่งพระรามเสด็จออกจากอาศรมไปที่ท่าน้ำ

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “เทพาวุธไป่ดล”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “เลิกทัพกลับกรุงไกร”